พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ของ สภ.นาพูน จังหวัดแพร่ บูรณาการร่วมหน่วยเกี่ยวข้องจับกุมผู้ต้องหา 3 คน รถยนต์กระบะตู้ทึบ 3 คัน ไอซ์ จำนวน 350 กิโลกรัม

          พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน พล.ต.ต.นพดล กรึงไกร พล.ต.ต.พรพิทักษ์ รู้ยืนยง พล.ต.ต.ธนะรัชต์ ชุ่มสวัสดิ์ พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.พงษ์เดช คำใจสู้ ผบก.ภ.จว.แพร่ พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน มทน.3/ผบ.นบ.ยส.35 นายสมชัย เลิศประสิทธิพันธ์ ผวจ.แพร่ และนายธันวา ผุดผ่อง ผอ.ปปส.ภาค 5 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ของ สภ.นาพูน จังหวัดแพร่ บูรณาการร่วมหน่วยเกี่ยวข้องจับกุมผู้ต้องหา 3 คน รถยนต์กระบะตู้ทึบ 3 คัน ไอซ์ จำนวน 350 กิโลกรัม

          จากกรณีเมื่อวันที่ 11 พ.ค.2568 เวลาประมาณ 04.00 – 10.00 น. ที่ ด่านตรวจดงยาง สภ.นาพูน อ.วังชิ้น จังหวัดแพร่ ต่อเนื่อง ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จังหวัดพิจิตร ตำรวจพร้อมด้วยฝ่ายปกครองจับกุมผู้ต้องหา จำนวน 3 คน ได้แก่ 1) นายพลวัตรฯ อายุ 33 ปี ภูมิลำเนา อ.ท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา 2) นายจักรกฤษฯ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา อ.สิรินร จังหวัดอุบลราชธานี และ 3) นายสุวรรณรัตน์ฯ อายุ 24 ปี ภูมิลำเนา อ.เมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยของกลาง ไอซ์ จำนวน 14 กระสอบ บรรจุกระสอบละ 25 ห่อ รวมประมาณ 350 กิโลกรัม รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ตู้ทึบ สีขาว ทะเบียน บร 695 สระแก้ว มีนายพลวัตรฯ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นคนขับ ใช้บรรทุกยาเสพติด รถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ตู้ทึบ สีขาว ทะเบียน บห 7088 ร้อยเอ็ด มีนายจักรกฤษฯ ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นคนขับ ใช้นำ/สำรวจเส้นทาง และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ตู้ทึบ สีเทา ทะเบียน 3ฒย 2701 กรุงเทพฯ มีนายสุวรรณรัตน์ฯ ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นคนขับ ใช้นำ/สำรวจเส้นทาง

           จากการสืบทราบพฤติการณ์แห่งคดี เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2568 เวลาประมาณ 04.00 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจดงยาง สภ.นาพูน อ.วังชิ้น จังหวัดแพร่ ตั้งด่านตรวจพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า ตู้ทึบ สีขาว ทะเบียน บร 695 สระแก้ว มีนายพลวัตรฯ เป็นผู้ขับขี่ ขับมาจากเส้นทาง จังหวัดแพร่ มุ่งหน้าไป จังหวัดสุโขทัย จึงเรียกทำการตรวจพบมีพิรุจ จึงได้ขอตรวจค้น พบกระสอบลายพราง จำนวน 14 กระสอบ มีไอซ์ บรรจุอยู่กระสอบละ 25 ห่อ รวมประมาณ 350 กิโลกรัม บรรทุกอยู่ในกระบะตู้ทึบจึงจับกุมตัวพร้อมของกลาง

          อย่างไรก็ตาม หลังจากส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากการขยายผลพบว่ามีรถยนต์กระบะ ตู้ทึบ อีก 2 คัน เป็นรถนำและสำรวจเส้นทางจึงได้ทำการขยายผลเพื่อจับกุมต่อไป