ผบ.กกล.ผาเมืองพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงสรุปผลการดำเนินการปราบปรามและจับกุมยาขบวนผู้ลักลอบขนยาเสพติดในห้วงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 จนถึงเดือนมิถุนายน 2567

          เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 พลตรีประพัฒน์ พบสุวรรณ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง/ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง พร้อมด้วยนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวการทำเปิดยุทธการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงราย ณ ห้องประชุม บก.กกล.ผาเมือง

          พลตรีประพัฒน์ พบสุวรรณ ผล กกล.ผาเมือง เปิดเผยว่า ในห้วงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึงเดือนมิถุนายน 2567 หน่วยฯ สามารถสกัดกั้นยาเสพติดได้ 318 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 327 คน ตรวจยึดยาบ้าได้ 150.4 ล้านเม็ด, เฮโรอีนจำนวน 256.7 กิโลกรัม, ไอซ์จำนวน 1,248.3 กิโลกรัม, ฝิ่นจำนวน 179.5 กิโลกรัม, และคีตามีน 29.2 กิโลกรัม ปะทะกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดจำนวน 38 ครั้ง และกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดเสียชีวิต 29 ศพ แต่ถ้าหากรวมพื้นที่ในความรับผิดชอบอันได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลกแล้ว สามารถสกัดกั้นและจับกุมได้ถึง 318 ครั้ง จับกุมผู้ต้องหาได้ 327 คน ตรวจยึดของกลางเป็นยาเสพติดประเภท 1 ได้แก่ ยาบ้าจำนวน 150,428,281 เม็ด รวมเป็นมูลค่า 22,564,242,150 บาท เฮโรอีนจำนวน 256,711 กรัม มูลค่า 256,711,000 บาท ไอซ์ จำนวน 1,248,322 กรัม เป็นมูลค่า 1,248,322,000 บาท สามารถจับกุมยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ได้แก่ฝิ่น จำนวน 179,500 41 กรัม มูลค่ากว่า 8,977,050 บาท และสามารถจับกุมวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 คีตามีน จำนวน 29,231 กรัม คิดเป็นมูลค่า 29,231,000 บาท ถ้าหากเทียบเป็นจำนวนที่จับกุมได้ต่อปริมาณของยาเสพติดตลอดทั้งปี 2566 แล้วพบว่า ช่วงระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือนของปี 2567 มีปริมาณการเพิ่มขึ้นของยาเสพติดที่จับได้ถึง 3 เท่าของปีที่แล้ว (2566) หากยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ดังกล่าวถูกลำเลียงเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานคร จะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจจากมูลค่าของยาเสพติดที่จำหน่ายถึง 24,107 ล้านบาท 

          อีกทั้งเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ร้อย.ม.4 ฉก.ไชยานุภาพได้มีการสกัดกั้นกลุ่มบุคคลต้องสงสัย 5-6 คนแบกเป้มาตามเส้นทางและกำลังขนถ่ายสัมภาระขึ้นรถกระบะพร้อมรถจักรยานยนต์เป็นรถนำทาง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้นแต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ขับรถหนี จึงได้มีการแจ้งให้ตั้งจุดสกัดบริเวณเส้นทางหน้าวัดห้วยจะนุ ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ และสามารถทำการตรวจพบรถยนต์และรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวขับเข้ามายังจุดสกัดและได้ทำการขับรถแหกด่านหลบหนีเข้าไปในวัด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการไล่ติดตาม และทำการตรวจค้นพบของกลางเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุอยู่ในกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพาย จำนวน 16 เป้เป้ละ 100,000 เม็ด รวมของกลางทั้งสิ้นจำนวน 1,600,000 เม็ด จึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหาจำนวน 1 ราย พร้อมรถจักรยานยนต์ 1 คัน และตรวจยึดรถกระบะจำนวน 1 คัน พร้อมของกลางดังกล่าว

          พลตรีประพัฒน์ พบสุวรรณ ผล.กกล.ผาเมือง กล่าวต่อไปว่า ถ้าหากยาบ้าที่ชุดเฉพาะกิจไชยานุภาพจับกุมได้นี้หลุดเข้าไปในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ จะมีมูลค่าสูงถึง 240 ล้านบาท พร้อมทั้งกล่าวให้ความมั่นใจแก่ประชาชนทุกฝ่ายให้มีความเชื่อมั่นได้ว่า กองกำลังผาเมืองและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะปล่อยให้มีการผ่านหรือให้เชียงใหม่เป็นเส้นทางผ่านของยาเสพติด และในทางกลับกันทุกฝ่ายทุ่มเทสรรพกำลังที่จะสกัดกั้นยาเสพติดอย่างเต็มความสามารถตามนโยบายในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

          ด้านนายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงใหม่ไม่ได้นิ่งนอนใจในปัญหาที่เกิดขึ้น ได้มีการสั่งการลงไปทั่วทุกอำเภอให้มีการตรวจสอบและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องก็จะมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด หรือแม้กระทั่งหากทราบว่ามีผู้ใดแอบลักลอบค้าหรือขนยาเสพติด ก็จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการจับกุมและส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป