นายกรัฐมนตรี เปิดงานวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองลีซู ที่ จ.เชียงใหม่

          นายกรัฐมนตรี เปิดงานวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองลีซู ที่ จ.เชียงใหม่ ผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งเทศกาล กระตุ้นเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรม

          เมื่อช่วงค่ำวันนี้ 16 มี.ค. 67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานวิถีชีวิตทางสายไหมชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองลีซู ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 82 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสมาคมลีซู และองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกันจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชาติพันธ์ุชนเผ่าพื้นเมืองลีซูให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ส่งเสริมการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นและแสดงผลิตภัณฑ์ชุมชนของชาติพันธุ์ลีซู โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ผู้อำนวยการสมาคมลีซู นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพี่น้องประชาชนและพี่น้องกลุ่มชาติพันธ์ุลีซู จากประเทศจีน เมียนมาร์ และประเทศไทย เข้าร่วมพิธีเปิดกันอย่างพร้อมเพรียง

           ภายในงานมีการจัดเสวนาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของชนชาติพันธุ์ระหว่างประเทศ สู่การพัฒนาและสร้างสรรค์ในทุก ๆ ด้าน และส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล เพื่อเป็นการกระตุ้นเศษฐกิจให้กับชุมชนโดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยว การเกษตรอุตสาหกรรมพื้นบ้าน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมดำหัวผู้อาวุโสชนเผ่า การประกวดแฟชั่นโชว์ชุดโบราณ การประกวดแฟชั่นโชว์ชุดเครื่องเขิน การแสดงเต้นประยุกต์ชนชาติพันธุ์ลีซู การประกวดดนตรีพื้นเมืองลีซู กิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม การชงกาแฟ การจัดแข่งขันอาหารชนเผ่าลีซู การสาธิตความรู้เรื่องสมุนไพร การแสดงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและหัตถกรรมของชนเผาลีซูจากจังหวัดต่าง ๆ ให้มีความเป็นอยู่และดำรงอัตลักษณ์ วัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยตลอดจนได้รับการยอมรับจากสังคมมากขึ้นโดยมีเยาวชนและประชาชน พี่น้องชาติพันธุ์ชนเผ่าพื้นเมืองลีซู ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวมาร่วมงานกันอย่างคึกคัก

          ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ซึ่งมีศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ การจัดกิจกรรมดังกล่าวนับว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรม อีกทั้งเป็นการผลักดันให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งเทศกาล ถือว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ในอีกมิติหนึ่ง

Cr.ข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
ภาพและข่าว : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
บรรณาธิการข่าว : ว่าที่ ร.ท.กาณฑ์ โสภโณดร
สำนักข่าวลานนาเพรส