Latest News

นายมนัส ขันใส รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ลงพื้นที่อำเภอพร้าว กำชับทุกหมู่บ้านตั้งจุดตรวจเฝ้าระวังพื้นที่ที่ติดกับป่า คุมเข้มห้ามเผาเด็ดขาด ล่าสุดจับมือเผาได้ 1 ราย

          เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2562 ที่ หอประชุมโรงเรียนพร้าววิทยา อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ นายมนัส ขันใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่มอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงานด้านการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ให้กับหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครสาธารณสุข สมาคมวิชาชีพครู และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอำเภอพร้าว ภายใต้โครงการ "เสริมประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่" เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ และส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการลดการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ทางการเกษตร และการเผาจากการหาของป่าในพื้นที่ รวมถึงการส่งเสริมอาชีพแก่ประชาชนให้มีรายได้อย่างยั่งยืน  

  

          สำหรับ อำเภอพร้าว มีทั้งหมด 11 ตำบล มีพื้นที่ติดเขตป่า 9 ตำบล ปีที่ผ่านมาเกิดจุด Hotspot 15 จุด แต่ปีนี้เกิดขึ้น 25 จุด ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในเขตป่าอนุรักษ์ และมี 6 ตำบลที่ไม่เกิดไฟเลย โดยจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศให้ปิดป่าห้ามเผาเด็ดขาดไปจนถึง 30 เมษายนนี้ โดยให้ทุกอำเภอที่มีพื้นที่ติดกับป่า ตั้งจุดตรวจคนเข้า-ออก ตรวจค้นอุปกรณ์ที่จะสามารถจุดไฟ รวมทั้งให้กำนันผู้ใหญ่บ้านจัดทำบัญชีผู้มีอาชีพหาของป่า ซึ่งอำเภอพร้าวได้ตั้งด่านชุมชนและหมู่บ้าน ตลอด 24 ชั่วโมง คัดกรองและเฝ้าระวัง จำนวน 30 จุด และจะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปยังจุดที่เกิดการเผาซ้ำซาก โดยกำชับให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดูแลไม่ให้เกิดไฟขึ้นในพื้นที่ของตนเอง ถ้าพบผู้กระทำผิดให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยมีรางวัลนำจับ 5,000 บาท ให้กับผู้ชี้เบาะแสจนนำไปถึงการจับดำเนินคดีตามกฎหมาย

          ล่าสุด วานนี้ (19 มี.ค.62) เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่บูรณาการออกตรวจลาดตระเวนป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ และออกตรวจลาดตระเวนไฟป่า พบเห็นไฟกำลังลุกไหม้ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปตรวจสอบ พบชาย 1 คน ชื่อ นายสวัสดิ์ กองเขียว อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 161 หมู่ 3 ตำบลแม่แวน อำเภอพร้าว พร้อมไฟแช็ก 1 อัน ยอมรับสารภาพว่าเผาป่าจริง โดยเผาออกจากสวนตัวเอง และลุกลามเข้าไปในป่า ไม่สามารถควบคุมได้ พื้นที่เสียหาย จำนวน 2 ไร่ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีตามกฎหมายเกี่ยวกับการป่าไม้ ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ มาตรา14 พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา16 (1) เเละฝ่าฝืนประกาศของจังหวัดเชียงใหม่

  

          ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้เน้นย้ำ ให้สร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากพิษภัยของหมอกควันและไฟป่า ให้กับเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ปรับวิธีการผลิตสินค้าทางการเกษตร โดยการปลูกพืชผสมผสาน น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ดำเนินการจัดการวัชพืชอย่างเหมาะสม โดยจะมีการฝึกอบรม ฝึกอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับกลุ่มผู้มีอาชีพหาของป่า ขณะเดียวกัน ยังคงให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการฉีดพ่นน้ำลดการเกิดฝุ่นละอองในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และให้อาสาสมัครสาธารณสุขออกให้ความรู้และคำแนะนำแก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว เลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าอย่างต่อเนื่องและจริงจัง

  

  



เขียนข่าวโดย :: Editor
วันที่ :: 20 มีนาคม 2562
เวลา :: 10:08:58

ข่าวอื่นๆ ในหมวดนี้ [ ข่าวราชการ ]