เกษตรกรบ้านใหม่ธานี อ.งาว สุดปลื้มหลังพลิกไร่ข้าวโพดบนดอยปลูกสับปะรดภูแล หนึ่งเดียวในลำปางเผยผลผลิตได้คุณภาพดีโรงงานส่งออกรับซื้อทั้งสวนระยะยาว พ่อเมืองรถม้าเตรียมดันให้เป็นแหล่งเรียนรู้ขยายผลเกษตรทางเลือก
ป้าจิตรา และลุงอาร์ต สรรพรัตน์ กวาวสนั่น สองสามีภรรยา เกษตรกรบ้านใหม่ธานี อำเภองาว จ.ลำปาง ผู้ล้มเลิกการทำไร่ข้าวโพดและเสาวรส หันมาปลูกสับปะรดภูแล เจ้าแรกและเจ้าเดียวในลำปาง เปิดเผยในโอกาสที่ นายทรงผล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เดินทางไปเยี่ยมชมสวนสับปะรดภูแลดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ทำกินด้านหลังหมู่บ้านบ้านใหม่ธานี อำเภองาว ว่า ก่อนหน้านี้ตนและสามี มีอาชีพทำไร่ข้าวโพด และ เสารส แต่ก็ประสบปัญหา ผลผลิตไมได้ราคาและถูกขโมยทุกปี แต่ก็ไม่เคยคิดย่อท้อ แต่หาวิธีเปลี่ยนอาชีพเกษตรอื่นๆที่ทำรายได้ดีกว่า ซึ่งตนมีญาติทำไร่สับปะรดภูแลอยู่ที่จังหวัดเชียงราย จึงขอไปศึกษาการปลูกสับปะรดภูแล พบว่า ปลูกง่ายลงทุนเพียงครั้งเดียว สามารถขายพันธุ์ และเก็บเกี่ยวได้เองตลอดไป ประกอบกับ สับปะรดภูแลสามารถปลูกได้ตลอดปีเป็นที่นิยมรับประทานสด ในและต่างประเทศ เพราะเป็นสับปะรดที่มีขนาดเล็กเท่ากำปั้น เนื้อสีทอง กลิ่นหอม รสชาติหวานกรอบ แต่ยังไม่เคยมีใครนำมาปลูกที่ลำปาง จึงตัดสินใจ ซื้อพันธุ์มาปลูก ปลูกรุ่นแรก 16,000 หน่อบนพื้นที่ 16 ไร่ เมื่อปี 2559
“ตอนตัดสินใจทำไร่สับปะรดภูแล มีแต่คนบอกว่าเราบ้า ปลูกไม่ได้ผลหรอก เตรียมตัวเจ๊งได้เลย แต่ป้ากับลุงก็เชื่อว่าน่าจะทำได้เพราะในลำปางปลุกสับปะรดกันมาก เพียงแค่เปลี่ยนสายพันธุ์น่าจะได้ผลผลิตไม่ต่างกัน สับปะรดเป็นพืชทะเลทราย ไม่ต้องการน้ำมาก ยิ่งแล้งยิ่งดี ที่ดินเราเป็นดอยสูงกว่าพื้นราบจึงเหมาะสมกับธรรมชาติของการปลูกสับปะรด แต่ในตอนแรกเราไม่รู้รู้ว่าตลาดใหญ่ที่แท้จริงอยู่ที่ไหน นอกเหนือจากการขายผลสด จึงเริ่มจากการนำผลผลิต บรรทุกระกระบะออกขายเอง ตามตลาดสดและงานเทศกาลต่างๆจนมีคนรู้จักโรงงานปอกผลสับปะรดผลสดส่งออกแนะนำฝ่ายจัดซื้อให้ได้ทดลองชิม เขาบอกว่าสับปะรดจากสวนเรารสชาติดีมาก ทางโรงงานขอเหมาซื้อทั้งหมด และทำข้อตกลงสั่งซื้อระยะยาว
ลุงอาร์ต สรรพรัตน์ กวาวสนั่น บอกว่า สับปะรดเป็นพืชที่ลงทุนหนักในครั้งแรก หลังจากลงปลูกหน่อในปีแรกโตให้ผลผลิตแล้ว รอบต่อไป ก็สามารถนับเวลาเก็บเกี่ยวที่แน่นอนได้ในอีก 3 เดือน โดยใช้เทคนิคการบังคับดอกให้มีผลผลิตนอกฤดูกาล ด้วยการหยอด ฮอร์โมน ถ่านแก๊ซ ซึ่งชาวสวนสับปะรดใช้กันทั่วไป แต่ละกอ มีหลายหน่อ ให้ผลผลิตทุกหน่อ ในหนึ่งรอบการเก็บเกี่ยวประมาณการผลผลิต 1.3 ตัน ต่อไร่ พื้นที่ปลูกรวม 16 ไร่ 1 ปีสามารถปลุกได้ 4 รอบดูแลบำรุงโดยใช้ปุ๋ยคอกมูลสัตว์ แทนปุ๋ยเคมี ซึ่งมีผลต่อต้นทุนที่ต่ำกว่า แต่ขายได้ราคาดีกว่าเพราะเป็นสับปะรดปลอดจากปุ๋ยเคมี โรงงานรับซื้อไม่อั้น
ขณะที่ราคาสับปะรดภูแลแบบผลสดแพงว่า สับปะรดทั่วไป แต่สำหรับไร่ของตนนั้นตัดผลผลิตเป็นผลสดพร้อมหัวจุก ขายส่งเข้าโรงงานที่ปอกผลสดส่งออกไปยังประเทศ ญี่ปุ่น และแถบยุโรป กิโลกรัมละ 13 บาท โดยโรงงานจะนำไปตัดแต่งขาย
ผลสดทั้งหัว หรือปอกแช่เย็น ส่วนผลสดที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่โรงงานกำหนด ก็นำออกขายผลสดตามตลาด ก็ได้ราคา ประมาณลุกละ 10 บาท โดยราคาที่ขายส่งขึ้นห้างทั่วไป ลูกละ 8 บาท
ลุงอาร์ตยังบอกอีกว่า หลังจากปลูกสับปะรดภูแล ลดต้นทุนการเกษตรได้มาก และใช้แรงงานในพื้นที่จำนวนไม่มาก ขณะนี้ปลูกพืชอื่นผสมผสาน เช่น ทุเรียน ลองกอง อโวคาโด ขณะนี้เริ่มปลูกแซมรอบๆพื้นที่แปลงสับปะรดคาดว่าในอีก 3-5 ปีข้างหน้า จะ มีความหลากหลายของพืชผลไม้สร้างรายได้เพิ่มอีกด้วย
ทั้งนี้นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจแก่ป้าจิตรา และลุงอาร์ต ในความกล้าที่จะแตกต่าง แม้จะมีอุปสรรคเรื่องพื้นที่ปลุกอยู่ห่างไกลทางเข้าออกลำบากในเรื่องการขนส่งผลผลิต แต่ก็ยังตัดสินใจทำเกษตรที่แตกต่างคู่แข่งน้อย ซึ่งทางจังหวัดได้มีนโยบายส่งเสริมให้เกษตรกร ทำเกษตรทางเลือก จึงเห็นว่า สวนสับปะรดภูแลของเกษตรกรรายนี้น่าจะเป็น ตัวอย่างของเกษตรกรอื่นๆได้ศึกษาดูงานขยายผลด้านเกษตรทางเลือกได้อีกด้วย