ลำปาง /// ชื่นชมชาวบ้านผึ้งใช้งบฯไทยนิยมไทยนิยมฯเชิงสร้างสรรค์

          อนุกรรมการสภานิติบัญญัติแห่งชาติชื่นชม ชาวบ้านผึ้ง หมู่ 3 อ.เกาะคา ไอเดียสร้างสรรค์ใช้งบ ไทยนิยมยั่งยืน หมู่บ้านละแสน ต่อยอดโครงการพัฒนาอาชีพ ตัดเย็บเสื้อผ้า เลี้ยงไส้เดือนนำขยะเปียกจากครัวเรือนแลกปุ๋ยไส้เดือน และโครงการเลี้ยงไก่ จ่ายไข่ไก่เป็นค่าแรง

          เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2561 คณะอนุกรรมการสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นำโดย พลเรือเอกชัยเอกชัยวัฒน์ เอี่ยมสุนทร และ พลเรือเอกนพดล โชคระดา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในการตรวจติดตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน โครงการต่อยอดกลุ่มเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ และ โครงการต่อยอดกลุ่มสตรีตัดเย็บเสื้อผ้า”ผึ้งหลวง ผ้างาม”  บ้านผึ้ง หมู่ 3 อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง ซึ่งได้รับงบประมาณสนับสนุนจากโครงการไทยนิยมยั่งยืน 1 แสนบาท เพื่อต่อยอดโครงจากโครงการเดิม 9101 ตามรอยเท้าพ่อ กินดี อยู่ดีมีความสุข

          นางกรรณิการ์ ขาวละมูล ประธานกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ”ผึ้งหลวง ผ้างาม”  เผยว่า หลังจากรวมกลุ่มแม่บ้านสตรีในหมู่บ้านเพื่อทำอาชีพสร้างรายได้จากการตัดเย็บเสื้อผ้าพื้นเมือง มาตั้งแต่ปี 2555 โดยการสนับสนุนจากภาครัฐหลายฝ่ายและเทศบาลตำบลเกาะคา เพื่อหาช่องทางสร้างรายได้ให้กับสตรีในหมู่บ้าน ร่วมหุ่นละ 1,000 บาท 30 ราย พัฒนาเรื่อยมา ขณะนี้มีสมาชิกมีสมาชิกเหลือเพียง 18  คน  มีรายได้พอเลี้ยงชีพให้กับสมาชิก รายละ2,000-4,000 บาท  ต่อเดือน และยังมีเงินออมเดือนละ 50 บาท มีโครงการเลี้ยงไส้เดือนในบ่อ โยให้ชาวบ้านนำขยะเปียกจากเศษพืชผัก มาเป็นอาหารไส้เดือน และแลกปุ๋ยไส้เดือนไปใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตร ส่วนที่เหลือก็ขายนำรายได้เข้ากลุ่ม

          นางกรรณิการ์ กล่าวว่า ได้นำเงินโครงการไทยนิยมยั่งยืน หนึ่งแสนบาทมาเป็นทุนต่อยอดยกระดับการทำงานของกลุ่มให้มีศักยภาพต่อไป

          ในการนี้ พลเรือเอกนพดล โชคระดา สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ชื่นชมแนวคิดการพัฒนากลุ่มที่ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลมาใช้ให้เกิดประโยชน์เชิงสร้างสรรค์เป็นตัวอย่างที่ดีแก่ชุมชนอื่นๆได้อย่างดี

          นายเกษม วันตา ประธานกลุ่มเลี้ยงไก่ไข่บ้านผึ้ง เผยว่า หลังจากสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ 13 รายได้ดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่ในชุมชน ตามโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ กินดี อยู่ดีมีความสุข จำนวน 350 ตัว เมือปี 2560 ประสบความสำเร็จ โดยสมาชิกในหมู่บ้าน มีไข่ไก่รับประทานและเหลือขาย นำรายได้เข้ากลุ่ม เพื่อใช้เงินในกิจกรรมหมู่บ้าน สร้างสามัคคีในชุมชนได้เป็นอย่างดี ในปีนี้ได้รับพิจารณางบประมาณ ไทยนิยมยั่งยืน มาต่อยอดขยายโครงการ โยซื้อแม่พันธุ์ไก่ไข่ และสร้างโรงเรือนเพิ่ม อีก 150 ตัว โดยสมาชิกทุกคนจะได้รับไข่ไก่ ครั้งละ 20 ฟอง เมื่อเข้าเวรเลี้ยงไก่ ถือเป็นเป็นกิจกรรมรายได้และเป็นศูนย์รวมเรียนรู้ด้านอาชีพที่ช่วยสร้างสามัคคีในกลุ่มพ่อบ้านในชุมชนต่อไป