เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีดีใจ ได้รับสมาชิกใหม่ “ลูกเสือโคร่งขาว” จำนวน 2 ตัว เป็นเพศเมีย จากการผสมพันธุ์ด้วยวิธีธรรมชาติจากพ่อและแม่เสือโคร่งขาวข้ามสายพันธุ์ พร้อมเชิญชวนชาวไทยร่วมตั้งชื่อ โดยได้รับเกียรติจาก นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร(องค์การมหาชน) ร่วมเปิดตัวสมาชิกใหม่ “ลูกเสือขาว”
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 เวลา 13.00 น. ณ เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ดร.ศราวุฒิ ศรีศกุน ผู้อำนวยการสำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เปิดเผยว่า เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์ลูกเสือโคร่งขาว จำนวน 2 ตัว เป็นเพศเมีย เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2557 โดยเป็นการผสมพันธุ์ด้วยวิธีธรรมชาติ จาก “พ่อจิมมี่” ทายาทเสือโคร่งขาวจากประเทศจีน วัย 6 ปี และ “แม่พลอย” ทายาทเสือโคร่งขาวจากสวนสัตว์ดุสิต วัย 10 ปี ซึ่งสองลูกเสือขาวสมาชิกใหม่ได้รับการดูแลจากแม่ตั้งแต่แรกเกิด และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ปัจจุบันเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีมีสมาชิกเสือโคร่งขาวทั้งสิ้น จำนวน 24 ตัว เป็นเพศผู้ 12 ตัว และเพศเมีย 12 ตัว
“เสือโคร่งขาว” WHITE TIGER Panthera tigris จัดเป็นสัตว์ที่มีสถานภาพด้านการอนุรักษ์เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ในพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 และจัดเป็นสัตว์ที่อยู่ใน Appendix Iสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์ เป็นเสือโคร่งที่เกิดจากลักษณะของยีนด้อย ส่งผลให้มีสีขาว และมีลายพาดกลอนสีน้ำตาล มีจมูกสีชมพู ตาสีฟ้า และมีแนวโน้มจะตัวใหญ่กว่าเสือโคร่งปกติ ทั้งขนาดแรกคลอดและเมื่อโตเต็มวัยว่ายน้ำเก่ง แต่ปีนต้นไม้ไม่เก่ง ชอบหากินกลางคืน และสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี มีระยะตั้งท้องนาน 16 สัปดาห์ ให้ลูกคอกละ 3-4 ตัว
ด้วยความสง่าและสวยงามของเสือโคร่งขาวทำให้ถูกล่าเพื่อนำหนังอันสวยงามไปทำเป็นเครื่องนุ่งห่ม หรือเพื่อการค้าอื่นๆ ส่งผลให้ในปัจจุบันมีประชากรเสือโคร่งขาวหลงเหลืออยู่ในโลกเพียงไม่เกิน 300 ตัวเท่านั้น โดยพบเฉพาะในสถานเพาะพันธุ์หรือสถานที่เลี้ยงดูเพื่อการศึกษาวิจัย
สำหรับเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี “เสือโคร่งขาว” นับเป็นทรัพยากรที่มีค่ายิ่ง โดยได้พยายามพัฒนาสายพันธุ์เสือโคร่งขาวให้มีความสมบูรณ์ทางพันธุกรรมมากที่สุด