ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ออกตรวจพื้นที่และมอบนโยบายการปฏิบัติหน้าที่ราชการ อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ โครงการ "ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบปะประชาชน" ประจำปีงบประมาณ 2557 และ "หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน" เพื่อให้หน่วยงานระดับจังหวัดออกหน่วยบริการประชาชน และพบปะประชาชนได้รับทราบปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่นำมาวิเคราะห์หาทางช่วยเหลือและแก้ไข
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2557 เวลา 09.30 น. นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบปะประชาชน” ประจำปีงบประมาณ 2557 และ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” ณ หอประชุมโรงเรียนอมก๋อยวิทยาคม อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่กระทรวงมหาดไทย ได้มีนโยบายให้จังหวัดดำเนินโครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน” โดยการจัดหน่วยบริการเคลื่อนที่แบบบูรณาการในระดับจังหวัด อำเภอ ออกให้บริการประชาชนในลักษณะ (One Stop Service) ที่ให้บริการเชิงรุก งานบริการและกิจกรรมที่ประชาชนชื่นชอบ รวมทั้งจัดคลินิกแก้จน โดยยึดหลักประชาชนได้รับความสุขและได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง และได้จัดทำโครงการ “ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พบปะประชาชน” ประจำปีงบประมาณ 2557 เพื่อให้หน่วยงานระดับจังหวัดออกหน่วยบริการประชาชน และพบปะประชาชนได้รับทราบปัญหาความต้องการของประชาชนในพื้นที่นำมาวิเคราะห์หาทางช่วยเหลือและแก้ไข นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทยได้มีนโยบายในการป้องกันสถาบันสำคัญของชาติเพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ เพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้ตระหนักถึงคุณูปการอันยิ่งใหญ่ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย จังหวัดเชียงใหม่จึงได้กำหนดจัดพิธีประกาศเจตนารมณ์ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ ของข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงานส่วนท้องถิ่น และประชาชน ทุกสาขาอาชีพ เข้าร่วมในงานครั้งนี้
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดหน่วยบริการประชาชนเคลื่อนที่ในลักษณะหน่วยบริการเชิงรุกแบบเบ็ดสร็จไปบริการในพื้นที่ จังหวัดเชียงใหม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ซึ่งหมายถึงว่าประชาชนจะได้รับการอำนวยความสะดวก ลดเวลาและภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางมารับบริการของประชาชน อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้รับทราบสภาพปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชน เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงที ช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในปัจจุบัน ตลอดจนการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบภัยต่างๆและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ เพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ของทุกภาคส่วนในพื้นที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต่ออีกว่า นโยบายการทำงานของจังหวัดใหม่ เรื่องแรกเน้นการรักษาทรัพยากรป่าไม้ เพราะปัจจุบันพื้นที่ป่าไม้ของจังหวัดเชียงใหม่ได้ลดลงเกือบ 10% เมื่อเทียบจากปี พ.ศ.2552 จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ป่า คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 77% ล่าสุดปี พ.ศ.2556 พบว่า จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ป่า คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 68% ดังนั้นจังหวัดเชียงใหม่จึงให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก รวมถึงการขอคืนพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกและยังสนับสนุนโครงการปลูกป่าและฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และโครงการประชาอาสาปลูกป่า 800 ล้านกล้า 80 พรรษามหาราชินี ฯ เพื่อปลูกป่าทดแทนพื้นที่ป่าที่เสียหาย และเพิ่มเติมพื้นที่ป่าในจังหวัดเชียงใหม่ให้มากขึ้น ป่าไม้อุทยานสนธิกำลังตำรวจทหารในการขอคืนพื้นที่ป่า คสช นโยบายการคืนพื้นที่ป่าในช่วงนี้จะไม่มีการดำเนินการทางกฎหมาย ปัญหาน้ำแล้งในพื้นที่อมก๋อย ทำให้สัตว์เลี้ยง วัว ควาย ตายไปเป็นจำนวนมาก เรื่องที่สอง การแก้ปัญหาหมอกควันเพราะจังหวัดเชียงใหม่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแต่ด้วยปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนเป็นโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจและทำให้สภาพอากาศแย่จึงขอความร่วมมือให้ช่วยกันแก้ไข ควรมีการควบคุมการเผาอย่างเป็นระบบ เรื่องที่สาม การแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน เพราะปัจจุบันปัญหายาเสพติดมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันสอดส่องดูแล เพราะส่งผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ทรัพย์สิน และที่สุดอาจเกิดอาชญากรรมได้ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านอยู่ใกล้ชิดกับกับประชาชน การลดปริมาณคนเข้าใส่วงจรยาเสพติด สำรวจคนไปบำบัดรักษา แล้วให้มีการฝึกอาชีพ ต้องติดตามคนบำบัดแล้วและต้องมีข้อมูลทุกคนในการติดตามผล ป้องกันคนรุ่นใหม่ไม่ให้เกี่ยวข้องยาเสพติด ปัญหาผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ขอให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด แข็งขัน เรื่องสุดท้าย การเมืองการปกครอง คือการที่จะทำให้สังคมเกิดความปรองดองสมานฉันท์ และมีรอยยิ้มได้นั้น สิ่งสำคัญคือ “การปกป้องสถาบันสำคัญของชาติ” เพื่อให้สังคมไทยเกิด “ความสงบ ความสันติ และความสามัคคี” พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกภาคส่วนเกิดความรัก ความหวงแหน และพร้อมที่จะปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และมหากษัตริย์ด้วยชีวิต และทำให้พี่น้องประชาชนชาวไทยรู้คุณแผ่นดินเกิด โดยเฉพาะ “รู้คุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”