Latest News

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ สั่งการให้ทุกอำเภอเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงอย่างเข้มข้น บังคับใช้กฎหมายกับผู้เผาป่าอย่างเด็ดขาด โดยจะเร่งขยาย Safety Zone ให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด เพื่อดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง

          เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 62 ที่ห้องประชุม 2 อาคาร SME ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวผลการดำเนินงานแก้ปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยวันนี้ได้เรียกประชุมนายอำเภอทั้ง 25 อำเภอ เพื่อมอบนโยบายและมาตรการเร่งแก้ไขปัญหาหมอกควันในแต่ละพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอำเภอที่เกิดการเผาซ้ำซาก ซึ่งขณะนี้ทุกภาคส่วนได้เพิ่มกำลังในการจัดกองกำลังผสมออกลาดตระเวน ภายใต้ชื่อ “ยุทธการสยบไฟป่า” เพื่อป้องกันปราบปรามการลักลอบเผาป่า และจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวด กำชับต้องเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่ เนื่องจากเป็นสาเหตุหลักของฝุ่นควันทั่วภาคเหนือ ซึ่งทุกภาคส่วนในทุกพื้นที่ยังมีการดับไฟป่าในทุกๆวัน และพยายามตามหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีอย่างไม่มีการละเว้น จากการดูดาวเทียมระบบ VIIRS มีจุด Hotspot เกิดเพิ่มมากขึ้นทั่วทั้งภาคเหนือ และประเทศเพื่อนบ้าน เฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดจุดความร้อน จำนวน 573 จุด ขณะที่สภาพอากาศภาคเหนือตอนบนมีแนวลมพัดฝุ่นควันจากทิศเหนือของประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาปกคลุมยังจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้วันนี้มีความหนาแน่นของปริมาณฝุ่นควันมากกว่าเดิม

  

          นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้สั่งการมาตรการเร่งด่วน โดยให้นายอำเภอ อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกอำเภอ จัดฝึกอบรมส่งเสริมอาชีพสำหรับผู้หาของป่า โดยกำหนดว่ามีเป้าหมายกี่คน และให้จัดทำเป็นรุ่นๆ ไป เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ตลอดจนสร้างการรับรู้เรื่องการป้องกันตัวเองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก และให้หน่วยงานสาธารณสุขออกรณรงค์ให้ความรู้ พร้อมแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อดูแลสุขภาพของตนเอง ซึ่งขณะนี้ได้มีการแจกหน้ากากอนามัยชนิดป้องกันฝุ่นขนาดเล็ก ไปแล้วกว่า 1.2 ล้านชิ้น และให้อำเภอทุกแห่งเพิ่มความเข้มข้น โดยเพิ่มการตรวจตรา ลาดตระเวนและจับกุมดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง รวมทั้งจัดหน่วยฉีดพ่นละอองน้ำสร้างความชุ่มชื้นในอากาศบริเวณพื้นที่นครเชียงใหม่ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 25 อำเภอ โดยจัดรถบรรทุกน้ำฉีดล้างถนน และฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศจำนวนกว่า 288 คัน พร้อมเพิ่มรอบการปฏิบัติงานเป็น 3 ช่วงเวลา คือ 06.00 น. 09.00 น. และ 14.00 น. ตลอดจนขอความร่วมมือภาคเอกชนที่มีอาคารสูง ช่วยฉีดพ่นละอองน้ำบนยอดตึก พร้อมทั้งได้ติดตั้งระบบพ่นน้ำ เช่น บริเวณสะพานนวรัฐ ประตูท่าแพ ประตูเชียงใหม่ ประตูช้างเผือก ประตูสวนดอก ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ และบริเวณรอบคูเมือง จำนวน 15 จุด เพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศให้ครอบคลุมบริเวณมากขึ้น ตลอดจนให้ประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือวิทยุชุมชน หอกระจายข่าว เสียงตามสาย แจ้งเตือนประชาชนให้งดการออกกำลังกายในที่โล่งแจ้ง และประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้หลีกเลี่ยงการออกจากบ้านในช่วงนี้

          ทั้งนี้ ยังได้สั่งการให้ทุกอำเภอจัดให้มีที่พักผ่อนปลอดมลพิษ (Safety Zone) โดยจัดทำในพื้นที่ที่มีขนาดห้องพอสมควร และมีเครื่องฟอกอากาศ เช่น ที่ว่าการอำเภอ เทศบาลตำบล องค์การบริหารส่วนตำบล โรงพยาบาล และครอบคลุมไปจนถึงโรงเรียน เพื่อใช้เป็นศูนย์พักพิงสำหรับประชาชน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ เด็ก และผู้สูงอายุ ซึ่งนำร่องไปแล้วที่อาคาร SME ภายในศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จังหวัดเชียงใหม่ และที่อำเภอแม่แจ่ม โดยกำลังเร่งดำเนินการขยายให้ครอบคลุมทั้งจังหวัด กว่า 212 แห่ง ต่อไป

  



เขียนข่าวโดย :: Editor
วันที่ :: 04 เมษายน 2562
เวลา :: 09:58:29

ข่าวอื่นๆ ในหมวดนี้ [ ข่าวราชการ ]