เชียงใหม่ผนึกกำลังระดมความคิดแก้ปัญหาทัวร์จีน “วูบ” เมิน “เที่ยวไทย”

          อาจารย์คมกฤต วงค์นาง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยพายัพ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการโรงแรมและการท่องเที่ยว ชี้ปัญหาสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนลดลงเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งจากภายในของจีนเองและจากปัจจัยภายนอก ผลกระทบที่เกิดจากสงครามการค้าที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของจีนที่ถูกสหรัฐอเมริกาตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าที่สูงขึ้น ทำให้สูญเสียรายได้มหาศาล และการอ่อนค่าของเงินหยวนที่ทำให้นักท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนเงินบาทได้น้อยลง ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเริ่มลดลงตั้งแต่เดือนมิถุนายนก่อนสถานการณ์เรือล่มที่ภูเก็ต ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทยเองหลักๆ คือปัญหาด้านความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจีนที่ประเทศไทยถูกมองว่าไม่ปลอดภัย เกิดจากสถานการณ์ต่อเนื่องต่างๆเช่น เรือล่มที่จังหวัดภูเก็ต กระบวนการให้ความช่วยเหลือและรองรับปัญหาต่างๆ ยังไม่มีระบบที่น่าเชื่อถือ นักท่องเที่ยวจีนถูกทำร้ายการทำธุรกิจทัวร์จีนแบบกินรวบ การขายสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ การขายทัวร์เพิ่มนอกรายการเชิงบังคับ โรคไข้เลือดออก ระบบพิธีการผ่านแดนที่ล่าช้าจนเกิดประเด็นการเก็บเงินเป็นสินน้ำใจในการทำวีซ่าจากนักท่องเที่ยวจีน การให้ข่าวสารทั้งเป็นทางการและผ่านสื่อโซเชียลที่ส่งผลก่อให้เกิดกระแสด้านลบ ตลอดจนพฤติกรรมของการเลือกปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยวจีนส่งผลให้การบริการไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ส่งผลทำให้เกิดการรับรู้การสื่อสารภาพลักษณ์เชิงลบของการท่องเที่ยวต่อนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวประเทศไทยมีกระแสแรงมากขึ้น

          การผนึกกำลังระดมความคิดแก้ปัญหานักท่องเที่ยวจีนลดลงในครั้งนี้ นางสาวอัญชลี วิทยานันทพรกุล ผู้บริหาร บ. CM.Paradise Tour เชียงใหม่ เป็นผู้นำเชิญชวนนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักวิชาการ เข้าร่วมระดมความคิดหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวณ ภัตตาคารอาหารจีนตูลู่ เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2561 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมมากกว่าหนึ่งร้อยคน อาทิเช่น พลตรี นายแพทย์นิวัฒน์  บุญยืน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพเชียงใหม่ นายไพรัช โตวิวัฒน์ CEO บริษัท เชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด อาจารย์อรรฆพจน์ วงศ์พึ่งไชย อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และผู้ประกอบการ นักธุรกิจชั้นนำ และนักวิชาการ

          จังหวัดเชียงใหม่ยังเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมอยู่ในใจของนักท่องเที่ยวจีนและยังมีชาวจีนที่อาศัยหรือศึกษาต่ออยู่ในจังหวัดเชียงใหม่จำนวนมากดังนั้นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวสามารถทำได้หลายช่องทางคือ

1. ปัญหาด้านความปลอดภัย ต้องจัดศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจีน Call center ที่เป็นทางการ และมีเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครดูแลนักท่องเที่ยวจีน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้านความปลอดภัยและบริการที่เป็นประโยชน์ จัดทำคู่มือสำหรับบริการนักท่องเที่ยวเป็นภาษาจีนเพื่อเผยแพร่ให้ความรู้ความเข้าใจทั้งด้านความปลอดภัยทางสังคมและวัฒนธรรมที่เป็นทางการทั้งในรูปแบบสื่อออนไลน์และเอกสารและต้องจัดระบบและกระบวนการดำเนินงานด้านความปลอดภัย ทั้งป้องปรามและการแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา กำหนดตัวผู้รับผิดชอบและขั้นตอนการทำงานที่ชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพของระบบและการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งการกลั่นกรองข่าวสารที่จะสื่อออกไปยังกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวด้วยความรอบคอบ
2. ปัญหาด้านสังคมและวัฒนธรรม ควรสร้างความรู้ความเข้าใจและทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีนให้แก่เจ้าบ้านในขณะเดียวกันก็สร้างความรู้ความเข้าใจให้นักท่องเที่ยวจีนในการมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้เกิดความเข้าใจถึงความต่างทางสังคมและวัฒนธรรมที่หลากหลายระหว่างไทยกับจีน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งเชิงสังคมและวัฒนธรรม
3. ปัญหาการดำเนินธุรกิจนำเที่ยวที่ไม่ได้มาตรฐาน ภาครัฐและผู้ประกอบการเองควรกำหนดให้มีการใช้มาตรฐานในการบริการและกำกับติดตามให้เป็นระบบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การบริการมีมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในหมู่นักท่องเที่ยวจีน สร้างจุดแข็งด้วยการใช้วัฒนธรรมที่ดีงาม ธรรมชาติ อาหาร และความหลากหลายของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวของเชียงใหม่เป็นจุดขายให้นักท่องเที่ยวจีนได้รับรู้ถึงแก่นแท้ที่เป็นจริงของความเป็นเชียงใหม่และที่สำคัญต้องสร้างตราสัญญลักษณ์ (Branding) รับรองมาตรฐานคุณภาพบริการของธุรกิจนำเที่ยวที่ผ่านมาตรฐานให้เกิดการรับรู้และจดจำในหมู่นักท่องเที่ยวจีน Operator ในต่างประเทศ และธุรกิจนำเที่ยวด้วยกันเอง เพื่อใช้ในการรับรองคุณภาพบริการและสร้างความไว้วางใจ ตลอดจนเกิดการกำกับดูแล และควบคุมภายในกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
4. ปัญหาด้านภาพลักษณ์ทางการท่องเที่ยว ควรสร้างความร่วมมือที่ดีกับสถานกงสุลใหญ่จีนประจำจังหวัดเชียงใหม่ ในการดูแลนักท่องเที่ยวจีนร่วมกัน สร้างความเข้าใจที่ดีต่อคนจีน ตลอดจนการจัดการท่องเที่ยวเชิงกิจกรรมในโอกาสสำคัญๆ ร่วมกัน จัดส่งเสริมการท่องเที่ยวแฟมทริป (FAM Trip) ให้กับตัวแทนนำเที่ยว นักท่องเที่ยว คนจีนที่อยู่หรือศึกษาในจังหวัดเชียงใหม่ หรือใช้บุคคลตัวแทนที่ทรงอิทธิพลบนสื่อโซเชียล (Micro Influencer) มาสร้างภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวหรือใช้บริการต่างๆ พร้อมทั้งจัดทำสื่อต่างๆ เผยแพร่ไปยังสื่อโซเชียลที่คนจีนนิยมเช่นWeChat, Weibo หรือYouku เพื่อเป็นสื่อกลางในการสื่อสารจากผู้ที่สื่อสารภาษาและมีวัฒนธรรมเดียวกันในการเผยแพร่ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดเชียงใหม่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนเพื่อให้เกิดการรับรู้ภาพลักษณ์ทางบวกที่มีอิทธิพลต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย
5. ปัญหาพิธีการตรวจลงตราเข้าเมือง ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องพัฒนาและบริหารทรัพยากรบุคคลให้เหมาะสมและเพียงพอกับปริมาณการใช้บริการ ตลอดจนปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และมีความความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น

          การผนึกกำลังระดมความคิดแก้ปัญหานักท่องเที่ยวจีนลดลงร่วมกันของนักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และนักวิชาการจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ได้ข้อเสนอแนะและทางออกที่เป็นประโยชน์ต่อการนำไปสู่การปฏิบัติ โดยจะมีผู้แทนทำหน้าที่นำเสนอต่อทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการดำเนินการร่วมกันโดยหวังว่าจังหวัดเชียงใหม่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและเชื่อมั่นจากนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมา