Latest News

พลังแรงงานสร้างชาติ ด้วยศาสตร์พระราชา

          พระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 นั้นมากล้นคำพรรณา ปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ล้วนรำลึกถึงมิเสื่อมคลายต่อไปนานเท่านาน

          ในงานมหกรรมรวมพลังเครือข่ายแรงงานเชียงใหม่ สร้างสุข สร้างชาติด้วยศาตร์พระราชา ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 20-21 เมษายน 2561 ที่ห้องแกรนด์ฮอลล์ โรงแรมฮอโรชั่นวิลเลจรีสอร์ท และสวนพฤษศาสตร์ทวีชล อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดงานในวันแรก นายมนูญ สุขศรีจันทร์ แรงงานจังหวัดเชียงใหม่ ดำเนินการร่วมกับเครือข่าย 15 องค์กร เริ่มจากการเสวนาหัวข้อ “แรงงานเชียงใหม่ห่างไกลยาเสพติดได้อย่างไร” โดยผู้แทนสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ผู้แทนจาก ป.ป.ส.จังหวัดเชียงใหม่ อาสาสมัครแรงงานจังหวัด ผู้แทนจากสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลมาตรฐานยาเสติด (มยส.) และผู้แทนจาก ศอปส.จังหวัดเชียงใหม่

          ในงานมีการประเมินผลโครงการอาสาสมัครแรงงานต้านยาเสพติด ซึ่งบริเวณหน้างานได้มีการจัดนิทรรศการของหน่วยงานและองค์กรเครือข่ายแรงงานให้ชม ก่อนเข้าสู่พิธีเปิดงาน นายมนูญ สุขศรีจันทร์ กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2561 เครือข่ายอาสาสมัครแรงงานมีภารกิจที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการต่ำกว่า 10 คน โดยเน้นรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้สถานประกอบการ และลูกจ้างได้ตระหนักถึงปัญหายาเสพติด พร้อมร่วมมือป้องกัน/แก้ไขปัญหา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเรื่องยาเสพติดในกลุ่มแรงงาน รวมถึงเน้นสร้างความรู้ความเข้าใจในสิทธิหน้าที่ตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และส่งเสริมกิจกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยผ่านกลไกประชารัฐ ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายอาสาสมัครแรงงาน และประชาชนในพื้นที่

          จากนั้น มีการปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “พลังแรงงานสร้างชาติ ด้วยศาสตร์พระราชา” โดยนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยสรุปได้ว่า พระมหากรุณาธิคุณแห่งล้นเกล้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ได้พระราชทานศาสตร์พระราชาให้คนไทย มีสาระสำคัญอยู่ที่ 3 ห่วง 2 เงื่อนไข คือห่วงด้านจิตใจ ให้คนไทยรู้ตัวเอง ทำอะไรให้มีสติรู้จักตัวตนของตน ความรู้นี้ทำให้มีความหนักแน่น ไม่หลงตามอย่างไม่มีเหตุผล โดยใช้สติปัญญามาเป็นเกราะกำบัง แต่ความรู้นั้นจะต้องประกอบไปด้วยคุณธรรม คำนึงถึงคนอื่นมากกว่าตนเอง ทำอะไรก็ตามต้องมองถึงส่วนรวม ด้วยจิตใจที่มีคุณธรรมเป็นหลัก ดังที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงตรัสว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม” และพระองค์ทรงงานน้อยใหญ่ล้วนแต่เพื่อให้ประชาชนคนไทยมีความสุข

          ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า คนเชียงใหม่มีความภูมิใจที่ในหลวงทรงก่อตั้งโครงการหลวงในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีจำนวนมากที่สุดถึง 27 โครงการ แต่จะมีใครรู้ว่าโครงการเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่ออะไร พระองค์ทรงมุ่งหวังให้คนไทยมีความสุขนั่นเอง เพราะทรงตระหนักว่าเรามีชาวไทยที่ยากจนอาศัยอยู่บนที่สูง ก็ได้พระราชทานโครงการหลวงด้วยมนุษยธรรมให้พี่น้องชาวไทยภูเขาเหล่านั้นมีอาชีพ มีรายได้ สร้างฐานะให้ดีขึ้นมา จะได้ร่วมกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงไว้ และเลิกการปลูกพืชเสพติด กล่าวได้ว่าโครงการหลวงได้ลดผลกระทบต่างๆ ดังกล่าวเป็นอย่างดี ทำให้การระบาดของยาเสพติดน้อยลง นั่นคือความสำเร็จของโครงการ ซึ่งที่ตนยกมากล่าวเป็นเพียงพระราชกรณียกิจน้อยนิดเท่านั้น กล่าวได้ว่าคนไทยโชคดีที่มีในหลวงทรงห่วงใยทุกข์สุขของประชาชน แม้แต่ตนก็ตามเคยอยู่จังหวัดเล็กมีแค่ 7 อำเภอ มาอยู่เชียงใหม่ 25 อำเภอก็หวั่นกลัวเหมือนกัน แต่ถือว่าโชคดีที่ได้มาทำงานถวายพระองค์ท่านด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ดังนั้น จึงขอเชิญชวนร่วมกันยึดปรัชญาอันเป็นศาสตร์ของพระราชามาปฏิบัติทั้งเรื่องความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคม และประเทศชาติ การทำให้พี่น้องคนไทยมีความสุข สังคมปลอดจากยาเสพติด ปลอดการทุจริตคอร์รัปชั่น ประชาชนอยู่ร่วมกันด้วยความสมานฉันท์ปรองดอง ผลที่จะออกมาคือชาติบ้านเมืองก็จะเจริญก้าวหน้า

         ภายหลังการปาฐกถาเสร็จแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ร่วมกับแรงงานจังหวัด ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วยปกครองจังหวัด สำนักงานจังหวัด พัฒนาชุมชนจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด เกษตรจังหวัด ยุติธรรมจังหวัด พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พร้อมด้วยเครือข่ายแรงงาน และอาสาสมัครแรงงานรวม 15 องค์กรร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการสร้างสุข สร้างชาติ ด้วยศาสตร์พระราชา ทั้งนี้ ในภาคบ่ายมีการเสวนาหัวข้อ “การสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ด้านกลไกประชารัฐ กิจกรรมรวมพลังจิตอาสาด้วยความภักดีในการบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสาธารณะ(ทำความสะอาดบริเวณวัดร้องขี้เหล็ก ต.เชิงดอย) ศึกษาดูงานเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการทำงานและการดำรงชีวิตด้วยศาสตร์พระราชา ส่วนวันที่สองของงานมหกรรมรวมพลังเครือข่ายแรงงานเชียงใหม่ มีการแบ่งกลุ่มย่อยเป็น 6 กลุ่มจากผู้เข้าร่วม 580 คน เพื่อเรียนรู้หลักการสร้างจิตสำนึกในการปฏิบัติงาน และกระบวนการสร้างนวัตกรรมในการแก้ไขปัญหาด้านแรงงาน และเรียนรู้เรื่องการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครแรงงานต้นแบบ พร้อมทั้งการสร้างเครือข่ายในการเฝ้าระวังปัญหาการค้ามนุษย์ การใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย และปัญหาแรงงานอื่นๆ

  

  

  



เขียนข่าวโดย :: Editor
วันที่ :: 21 เมษายน 2561
เวลา :: 12:44:52

ข่าวอื่นๆ ในหมวดนี้ [ ข่าวทั่วไป ]