จังหวัดเชียงใหม่ประชุมคณะทำงานศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2559 เวลา 13.00 น. ณ ห้องศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า จังหวัดเชียงใหม่ นายมงคล สุกใส รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานศูนย์อำนวยการสั่งการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2559 จากสถานการณ์และผลการดำเนินงานขั้นตอนการรับมือ ระหว่าง 16 กุมภาพันธ์ – 15 เมษายน 2559) กำหนดให้เป็นช่วงเวลาห้ามเผาเด็ดขาด ภายใต้ชื่อ “60 วันห้ามเผาเราทำได้ เพื่อเชียงใหม่ไร้หมอกควัน” ด้วยการจัดชุดลาดตระเวน จัดชุดปฏิบัติการเข้าดับไฟทันทีในเวลาอันรวดเร็ว หากมีเหตุเผาในพื้นที่จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2559 – 27 มีนาคม 2559 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาไปทั้งสิ้น 11ราย สถานการณ์ภาพรวมในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วถือว่าดีขึ้นและเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง โดย Hotspot สะสม 60 วัน ปี 2558 มี 1,882 จุด ซึ่งในขณะนี้ มีจุดสะสม 558 จุด เห็นได้จากจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) ที่ลดลงไปเป็นจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น อำเภอเวียงแหงในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วมีจำนวนจุดความร้อน 111 จุด ขณะที่ปีนี้เพิ่งมีเพียง 3 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานอย่างจริงจังของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหา
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จำนวนวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน 120ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรนั้น ในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 10 วัน ซึ่งยังมีความจำเป็นที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องทุ่มเททำงานต่อไป เพื่อทำให้จำนวนวันลดลง จากปีที่ผ่านมาที่ในช่วงวันที่ 1 มกราคม-15เมษายน 2558 มีจำนวนวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน 17 วัน โดยเชื่อมั่นว่าจากการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด จะได้ผลตามเป้าหมายอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่จะต้องทำคือการควบคุมไม่ให้มีการเผา ทั้งการขอความร่วมมือจากประชาชน และการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเน้นย้ำว่าการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ทำมีการจัดกำลังกระจายทั่วทุกพื้นที่ 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเผาเป็นหลัก แต่หากพบว่ามีการลักลอบเผาก็ต้องทำการดับไฟให้ได้เร็วที่สุด ไม่ให้เกิดการลุกลามจนส่งผลกระทบตามมา รวมทั้งจะต้องพยายามทำการสืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ด้วย
ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่า จากการเฝ้าระวังติดตามผู้ป่วยใน 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ ตาอักเสบ และผิวหนังอักเสบ ในช่วงระหว่างวันที่ 1-27มีนาคม 2559 จังหวัดเชียงใหม่มีผู้ป่วยที่อาจจะได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากภาวะหมอกควันไฟป่าจำนวนทั้งสิ้น 43,382 ราย แต่จากการวิเคราะห์ยังไม่พบว่าจำนวนผู้ป่วยและจำนวนวันที่ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน มีนัยสัมพันธ์กันแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามได้มีการประสานกำชับไปยังโรงพยาบาลทุกแห่ง รวมทั้งโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ให้มีการจัดเตรียมยา เวชภัณฑ์ และทำช่องทางพิเศษสำหรับผู้ป่วยที่อาจได้รับผลกระทบสุขภาพจากภาวะหมอกควัน พร้อมทั้งมีการแจ้งเตือนและข้อแนะนำการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนในช่วงสถานการณ์หมอกควัน ให้หลีกเลี่ยงการออกทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ทั้งนี้ได้มีการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยสำหรับให้ประชาชนสวมใส่ป้องกันตัวเองไปแล้วรวม 150,000 ชิ้น.