ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน จะตรึงการทำงานของชุดปฏิบัติการทั้ง 91 ชุด ในพื้นที่ โดยทุกภาคส่วนร่วมดำเนินการจนถึง15 เมษายน หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

          เชียงใหม่ : นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวร่วมกับ นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า ว่า วันนี้เกิดจุดความร้อน 46 จุด ใน 12 อำเภอ ซึ่งแต่ละอำเภอได้เร่งดำเนินการจนขณะนี้ดับไฟได้เกือบทั้งหมดแล้ว เหลือพื้นที่ที่อยู่ในป่าลึก เข้าดับไฟได้ยาก ปัญหาเกิดจากการลักลอบหาของป่า หาผึ้ง ซึ่งได้พูดคุยกับนายอำเภอทุกอำเภอกำชับดูแลพื้นที่อย่างเข้มข้น ซึ่งทุกอำเภอยืนยันมีชุดปฏิบัติการในพื้นที่ทำงานตลอดเวลา ประจำพักค้างอยู่ในตำบล สามารถเข้าปฏิบัติการแก้ไขปัญหาได้โดยเร็ว คาดว่าการดับไฟจะดำเนินการเสร็จสิ้นไม่นานนี้  

          จากวันที่ 2 เมษายน ซึ่งนายกรัฐมนตรีลงมาติดตามสถานการณ์ 9 จังหวัดภาคเหนือ วันนั้นเชียงใหม่เกิดจุดวามร้อน 478 จุด แต่ ณ วันนี้ เกิดจุดความร้อน 46 จุด เป็นเพราะการทำงานอย่างจริงจังต่อเนื่องของทุกภาคส่วน ทั้งชุมชน ชาวบ้านอำเภอ ชุดปฏิบัติการทั้ง 91 ชุด ทหาร ตำรวจ ทำเต็มที่ ซึ่งยังคงต้องดำเนินการกันต่อไป ตนเองวางแนวทางไว้จากที่นายกรัฐมนตรีกำหนดวันที่ 9 เมษายนนี้ จะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 15 เมษายนเป็นอย่างน้อย เพื่อรักษาพื้นที่ให้ได้ และไม่ให้เกิดเหตุไฟป่าซ้ำอีก

          ส่วนเครื่องเครื่องดูดฝ่นละออง pm 2.5 ขนาดใหญ่ ที่จังหวัดขอนแก่นนำมามอบให้เมื่อวานนี้ สามารถฟอกอากาศในพื้นที่โล่งได้กว้าง และทางจังหวัดได้นำไปติดตั้งที่ประตูท่าแพ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชุมชนและนักท่องเที่ยว จำนวนมาก ซึ่งจะเกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับสภาพอากาศวันนี้เริ่มดีขึ้น ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เริ่มลดลง ตนเองได้ติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนปฏิบัติการฝนหลวง ทางสำนักฝนหลวงแจ้งว่าความชื้นในอากาศวันนี้ลดลงกว่าเมื่อวาน หากสามารถดำเนินการทำฝนหลวงได้จะดำเนินการทันที

          ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟ่าในระยะยาว จะมีการดำเนินการคู่ขนานกันไปในเรื่องของการจัดทำป่าเปียก ซึ่งวันนี้ ได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาดำเนินการตามที่แต่ละอำเภอเห็นสมควร ซึ่งพื้นที่ต้องมีความสมบูรณ์ ทั้งดิน น้ำ และมีการบริหารจัดการที่ดี เพื่อไม่ให้เกิดไฟป่าในพื้นที่ขึ้นอีก